"ประกัน" ของขวัญจากรัฐที่ทำให้คุณจ่ายภาษีน้อยลง

   หลายคนอาจสงสัยว่าทำไมเวลาพูดถึงการวางแผนภาษี มักมีเรื่อง ประกัน เข้ามาเกี่ยวข้องเสมอ คำตอบง่าย ๆ คือ เพราะ ประกันไม่ใช่แค่เรื่องของการคุ้มครอง แต่ยังเป็นหนึ่งในเครื่องมือทางการเงินที่รัฐสนับสนุนให้ประชาชนใช้เพื่อดูแลตนเองและครอบครัว ผ่านการมอบสิทธิลดหย่อนภาษีให้กับผู้ที่ทำประกันค่ะ

ประกันคืออะไร มีดีอะไร ทำไมรัฐถึงต้องให้สิทธิลดหย่อนภาษี

   ประกัน คือ สัญญาระหว่างเรากับบริษัทประกันภัยหรือบริษัทประกันชีวิต ที่เราชำระเบี้ยเป็นงวด ๆ และแลกมากับ ความคุ้มครอง ที่จะช่วยแบ่งเบาภาระทางการเงินในเวลาที่เกิดเหตุไม่คาดคิด เช่น การเจ็บป่วย การเสียชีวิต หรือแม้กระทั่งการเกษียณอายุ

ข้อดีของการทำประกันจึงไม่ใช่เพียงแค่การซื้อความสบายใจ แต่ยังเป็นเครื่องมือที่ช่วย

• คุ้มครองรายได้ของครอบครัว หากผู้เอาประกันเกิดเหตุไม่คาดฝัน
• ช่วยบริหารความเสี่ยงด้านสุขภาพ เพราะค่ารักษาพยาบาลในปัจจุบันสูงขึ้นทุกปี ลำพังสิทธิการรักษาขั้นพื้นฐานที่มี อาจไม่ครอบคลุมค่ารักษาพยาบาลทั้งหมด
• สร้างหลักประกันระยะยาว เช่น ประกันบำนาญ ที่เปรียบเหมือนเงินบำนาญเสริมในวัยเกษียณ
• สร้างวินัยทางการเงิน เพราะเบี้ยประกันที่ต้องชำระสม่ำเสมอ เป็นเหมือนการออมเงินในตัว
  

ทำไมรัฐถึงสนับสนุนให้ทำประกัน

   ในมุมของรัฐ การมีประชาชนที่ เตรียมพร้อม ด้านการเงินและสุขภาพ คือการช่วยแบ่งเบาภาระภาครัฐไปในตัวค่ะ หากคนไทยมีประกันสุขภาพ ก็จะลดการพึ่งพาระบบสาธารณสุขของรัฐ หากมีประกันชีวิตหรือบำนาญ ก็จะช่วยให้ครอบครัวและตัวบุคคลมีความมั่นคงมากขึ้น ไม่ต้องพึ่งพาสวัสดิการของรัฐมากเกินไป

ดังนั้นรัฐจึง จูงใจ ให้คนหันมาทำประกัน ด้วยการให้ สิทธิลดหย่อนภาษี ซึ่งถือเป็นผลประโยชน์โดยตรงของผู้เอาประกันเองด้วย


แล้วประกันอะไรบ้างที่ลดหย่อนภาษีได้

   ปัจจุบัน (อัปเดตปี 2568) กฎหมายภาษีไทยให้สิทธิลดหย่อนจากเบี้ยประกันได้หลายประเภท โดยมีรายละเอียดดังนี้ค่ะ

1. ประกันชีวิต
ลดหย่อนได้สูงสุด 100,000 บาทต่อปี
สัญญาต้องมีระยะเวลาคุ้มครองอย่างน้อย 10 ปีขึ้นไป และห้ามมีเงินคืนเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด
ประกันชีวิตที่อยู่ในหมวดนี้ เช่น ประกันชีวิตแบบตลอดชีพ, ประกันสะสมทรัพย์, ประกันควบการลงทุนแบบ universal life เป็นต้น 

จุดประสงค์เพื่อสร้างหลักประกันในระยะยาวให้กับผู้เอาประกัน

2. ประกันสุขภาพ (สัญญาเพิ่มเติมสุขภาพ)
ลดหย่อนได้สูงสุด 25,000 บาทต่อปี แต่เมื่อรวมกับเบี้ยประกันชีวิต ต้องไม่เกิน 100,000 บาท

จุดประสงค์เป็นการสนับสนุนให้คนไทยมีหลักประกันด้านสุขภาพเป็นของตัวเองค่ะ

3. ประกันบำนาญ
ลดหย่อนได้สูงสุด 200,000 บาทต่อปี (หากใช้สิทธิประกันชีวิต 1 แสนบาทแรกไม่ครบ สามารถนำมาทบเป็นประกันบำนาญได้ จึงลดหย่อนได้สูงสุด 300,000 บาท) แต่ต้องไม่เกิน 15% ของรายได้พึงประเมิน และเมื่อรวมกับกองทุนเพื่อการเกษียณอื่น ๆ ต้องไม่เกิน 500,000 บาท

จุดประสงค์คือช่วยให้เตรียมเงินไว้ใช้ในวัยเกษียณ ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายการสร้างสังคมผู้สูงอายุอย่างมีคุณภาพ

4. ประกันสุขภาพบิดามารดา
ลดหย่อนได้สูงสุด 15,000 บาทต่อปี
เงื่อนไขคือบิดามารดาต้องไม่มีรายได้เกินเกณฑ์ที่กำหนด

จุดประสงค์คือเพื่อสนับสนุนการดูแลครอบครัวและผู้สูงอายุ

5. ประกันชีวิตของคู่สมรส
ลดหย่อนได้สูงสุด 10,000 บาทต่อปี
เงื่อนไขคือคู่สมรสต้องที่ไม่มีรายได้เกินเกณฑ์ที่กำหนด

สิทธิประโยชน์ที่มากกว่าการลดหย่อน

   การทำประกันไม่เพียงแต่ได้ลดหย่อนภาษีเท่านั้น แต่ยังได้ประโยชน์ที่จับต้องได้ในหลายด้าน เช่น

• การวางแผนมรดกและการส่งต่อทรัพย์สิน เพราะเงินประกันชีวิตสามารถส่งตรงถึงผู้รับผลประโยชน์ โดยไม่ต้องผ่านกระบวนการมรดก
• ช่วยให้การออมเงินมีเป้าหมายชัดเจน เมื่อเรารู้ว่าเบี้ยประกันสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ เราก็ยิ่งมีแรงจูงใจในการออม
• การบริหารความเสี่ยงเชิงระบบ เพราะเมื่อประชาชนจำนวนมากมีประกัน ก็เท่ากับลดภาระการดูแลจากภาครัฐในยามวิกฤติ
  
  

ควรเลือกทำประกันแบบไหนดี

การเลือกประกันไม่ได้ขึ้นกับแค่สิทธิลดหย่อน แต่ขึ้นกับ ความต้องการของเรา เป็นหลัก เช่น

- ถ้าโฟกัสที่ การดูแลสุขภาพ ควรพิจารณา ประกันสุขภาพ ที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์
เช่น หากเข้าใจตนเองดีว่าเมื่อเกิดความเจ็บป่วย ต้องการเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลไหน ก็สามารถประเมินวงเงินค่าใช้จ่ายที่ต้องการ และเลือกแผนประกันสุขภาพที่เหมาะสม

- ถ้าเน้น การคุ้มครองครอบครัว ประกันชีวิตระยะยาว คือคำตอบ

- ถ้าอยากมี รายได้หลังเกษียณ ประกันบำนาญคือทางเลือกที่ดี (กรณีต้องการเงินจำนวนแน่นอน สม่ำเสมอ) หรือจะวางแผนด้วย ประกันออมทรัพย์ (กรณีอยากได้เงินก้อนไปบริหารต่อเอง) หรือ ประกันควบการลงทุน ก็ได้ (กรณีคาดหวังผลตอบแทนจากการลงทุนด้วย)

- ถ้าอยาก ดูแลพ่อแม่ ประกันสุขภาพบิดามารดาจะช่วยแบ่งเบาภาระภาษีไปพร้อมกับการดูแลคนที่รัก

หรือหากไม่ยังแน่ใจว่าประกันแบบไหนเหมาะกับตัวเราที่สุด สามารถปรึกษาจินได้เลยนะคะ คลิก




   ประกันเป็นทั้ง เกราะคุ้มกันชีวิต และ เครื่องมือทางการเงิน ที่รัฐอยากให้ประชาชนเข้าถึงมากขึ้น

เมื่อเราทำประกัน เราได้ทั้งความอุ่นใจในชีวิต ความมั่นคงให้ครอบครัว และสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ช่วยประหยัดเงินได้จริง

การวางแผนภาษีจึงไม่ใช่เพียงการคำนวณเพื่อลดภาระ แต่คือการมองภาพรวมชีวิตของเราในระยะยาว

และประกันเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยเติมเต็ม ความมั่นคงและความสุข ให้ชีวิตทั้งวันนี้และในอนาคตค่ะ



สนใจสอบถามเพิ่มเติม เช็คเบี้ย หรือปรึกษาการวางแผนประกัน

สโรชา เชิดชูธรรม (จิน)

Tel : 062-9025532

Line ID : jinsarocha

หรือแอดไลน์ คลิกที่นี่ 



ตัวแทนประกันชีวิต เมืองไทยประกันชีวิต เลขที่ใบอนุญาต 6801006286

ผู้แนะนำการลงทุน IC License เลขที่ 137173

Facebook คลิก :  Wealth Nest Planner

Instagram คลิก :  @wealthnest.pn