แชร์

กองทุนรวมคืออะไร ทำไมถึงน่าสนใจสำหรับมือใหม่

อัพเดทล่าสุด: 24 ส.ค. 2025
13 ผู้เข้าชม
 
กองทุนรวมคืออะไร ทำไมถึงน่าสนใจสำหรับมือใหม่
 

     เมื่อพูดถึง การลงทุน หลายคนอาจนึกถึงหุ้น ทองคำ หรืออสังหาริมทรัพย์ แต่สำหรับคนจำนวนมาก การก้าวเข้าสู่โลกการลงทุนกลับเต็มไปด้วยคำถามและความกังวล ไม่ว่าจะเป็น จะเริ่มต้นยังไงดี ต้องมีเงินเยอะไหม หรือ ถ้าไม่มีความรู้เรื่องหุ้นเลยจะทำได้ไหม

     หนึ่งในคำตอบที่เหมาะกับคนทั่วไปที่อยากเริ่มลงทุนแบบค่อยเป็นค่อยไป คือ กองทุนรวม (Mutual Fund) ค่ะ เพราะเป็นช่องทางการลงทุนที่เปิดกว้าง เข้าถึงง่าย และบริหารจัดการโดยมืออาชีพ ทำให้นักลงทุนไม่จำเป็นต้องมีเวลาติดตามตลาดการเงินตลอดเวลา แต่ก็ยังมีโอกาสให้เงินเติบโตได้อย่างมั่นคง


กองทุนรวมคืออะไร

     กองทุนรวม (Mutual Fund) คือการที่ผู้ลงทุนหลาย ๆ คน นำเงินมารวมกันเป็นกองใหญ่ แล้วให้ บริษัทจัดการกองทุน (Asset Management Company - AMC) หรือผู้จัดการกองทุนเป็นผู้บริหารเงินก้อนนี้ โดยทีมงานผู้จัดการกองทุนซึ่งมีความเชี่ยวชาญ จะเป็นผู้เลือกสินทรัพย์ที่เหมาะสมมาลงทุน เช่น
- หุ้น
- พันธบัตรรัฐบาล
- ตราสารหนี้ภาคเอกชน
- เงินฝาก
- อสังหาริมทรัพย์
- หรือตราสารการเงินอื่น ๆ

จากนั้นผลตอบแทนหรือกำไรที่ได้จากการลงทุน ก็จะแบ่งคืนให้ผู้ถือหน่วยลงทุนตามสัดส่วนที่ถือครอง เรียกว่า หน่วยลงทุน


     เปรียบเทียบง่าย ๆ การลงทุนผ่านกองทุนรวม เหมือนกับการนั่งรถบัสโดยสารที่ทุกคนใส่ค่าโดยสาร (เงินลงทุน) ลงไป แล้วปล่อยให้คนขับ (ผู้จัดการกองทุน) พาเราไปยังเป้าหมาย (ผลตอบแทน) โดยไม่ต้องขับรถเองให้เหนื่อย


ทำไมกองทุนรวมถึงน่าสนใจ

1. เริ่มต้นง่าย ใช้เงินไม่เยอะ
     ต่างจากการซื้อหุ้นหรืออสังหาฯ ที่อาจต้องใช้เงินก้อนใหญ่ การลงทุนในกองทุนรวมสามารถเริ่มต้นได้เพียงหลักร้อยหรือหลักพันบาทเท่านั้น เหมาะกับคนที่อยากลองลงทุน แต่ยังไม่อยากเสี่ยงมากหรือลงเงินก้อนใหญ่ตั้งแต่แรก

2. มีผู้เชี่ยวชาญดูแล
     กองทุนรวมถูกบริหารโดยผู้จัดการกองทุนซึ่งมีประสบการณ์และความรู้เชิงลึกในตลาดการเงิน นักลงทุนจึงไม่จำเป็นต้องคอยติดตามข่าวการลงทุนทุกวัน หรือวิเคราะห์งบการเงินของบริษัทเอง เหมาะสำหรับคนที่ไม่มีเวลา หรือยังไม่มีความเชี่ยวชาญมากนัก

3. กระจายความเสี่ยงได้ง่าย
     กองทุนรวมไม่ได้ลงทุนในสินทรัพย์เพียงตัวเดียว แต่กระจายการลงทุนไปหลายบริษัท หลายอุตสาหกรรม หรือแม้แต่หลายประเทศ ช่วยลดความเสี่ยงจากการลงทุน เพราะหากหุ้นบางตัวขาดทุน ก็ยังมีหุ้นหรือตราสารอื่น ๆ มาชดเชย

4. มีหลายรูปแบบให้เลือก
     กองทุนรวมมีหลากหลายประเภท ตอบโจทย์เป้าหมายที่ต่างกัน เช่น
- กองทุนตราสารหนี้ : เสี่ยงต่ำ เหมาะกับคนที่เน้นความปลอดภัย
- กองทุนหุ้น : เสี่ยงสูง แต่มีโอกาสผลตอบแทนมากกว่า เหมาะกับการลงทุนระยะยาว
- กองทุนผสม : ลงทุนทั้งหุ้นและตราสารหนี้ เพื่อสร้างสมดุล
- กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) : ได้ทั้งการลงทุนและสิทธิประโยชน์ทางภาษี

ผู้ลงทุนสามารถเลือกกองทุนที่เหมาะกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ และเป้าหมายทางการเงินของตัวเอง

5. สภาพคล่องสูง ซื้อขายง่าย
     หน่วยลงทุนของกองทุนรวมสามารถซื้อหรือขายคืนได้ตามวันที่กำหนด (ยกเว้นบางกองทุนที่มีเงื่อนไขพิเศษ) ทำให้การลงทุนมีความยืดหยุ่น ต่างจากการลงทุนบางอย่าง เช่น อสังหาฯ ที่อาจต้องใช้เวลานานกว่าจะขายได้

6. ได้รับการกำกับดูแลจากภาครัฐ
     กองทุนรวมทุกกองอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ทำให้มั่นใจได้ในระดับหนึ่งว่า กองทุนเหล่านี้ดำเนินการตามกฎหมายและมาตรฐานที่กำหนด


ตัวอย่างสถานการณ์ที่กองทุนรวมตอบโจทย์

มนุษย์เงินเดือนวัย 32
อยากเก็บเงินก้อนเพื่อซื้อบ้านในอีก 5-7 ปีข้างหน้า แต่ไม่อยากเอาเงินทั้งหมดไปฝากธนาคารเพราะดอกเบี้ยน้อย เลือกลงทุนในกองทุนผสมที่มีหุ้นและตราสารหนี้ เพื่อให้เงินงอกเงยมากกว่าฝากออมทรัพย์


คุณแม่วัย 45
อยากเก็บเงินเพื่อใช้หลังเกษียณ จึงเลือกลงทุนใน RMF กองทุนหุ้น โดยทยอยลงทุนทุกปีเพื่อใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษี พร้อมกับสะสมเงินก้อนในระยะยาว


นักลงทุนมือใหม่วัย 28
เพิ่งเริ่มทำงาน อยากเรียนรู้การลงทุน เลือกลงทุนในกองทุนรวมตลาดเงิน (Money Market Fund) ที่ความเสี่ยงต่ำ เพื่อทำความคุ้นเคยก่อนค่อย ๆ ขยับไปลงทุนกองทุนหุ้นในอนาคต


ข้อควรระวังในการลงทุนกองทุนรวม
     แม้ว่ากองทุนรวมจะมีข้อดีมากมาย แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะ ปลอดความเสี่ยง 100% สิ่งที่ผู้ลงทุนควรตระหนัก คือ

  1. ผลตอบแทนไม่แน่นอน การลงทุนมีทั้งโอกาสได้รับผลตอบแทนสูง ผลตอบแทนต่ำ หรือขาดทุน ไม่มีใครรับประกันได้ว่ากองทุนจะได้กำไรเสมอไป

  2. กองทุนรวมมีค่าใช้จ่ายและค่าธรรมเนียม เช่น ค่าธรรมเนียมการจัดการ ค่าธรรมเนียมซื้อขาย ซึ่งอาจส่งผลต่อผลตอบแทนสุทธิ

  3. ต้องเลือกกองทุนที่เหมาะกับเป้าหมาย หากเลือกกองทุนหุ้น แต่หวังจะใช้เงินในอีก 1-2 ปีข้างหน้า ก็อาจไม่เหมาะ เพราะกองทุนหุ้นมีความผันผวนสูง ช่วงที่ต้องการใช้เงินอาจเป็นช่วงที่ขาดทุน ไม่เหมาะกับการขายเพื่อนำเงินออกมาใช้

  4. ควรทำความเข้าใจเอกสารให้ชัดเจนก่อนตัดสินใจลงทุน เช่น หนังสือชี้ชวนกองทุนที่ระบุวัตถุประสงค์ นโยบายการลงทุน และความเสี่ยงที่เกี่ยวข้อง



     กองทุนรวมถือเป็น จุดเริ่มต้นที่ดีในการลงทุน สำหรับคนทั่วไป เพราะเข้าถึงง่าย ใช้เงินเริ่มต้นไม่สูง และมีผู้เชี่ยวชาญคอยดูแล อีกทั้งยังช่วยกระจายความเสี่ยงและปรับเปลี่ยนได้ตามเป้าหมายที่ต่างกัน

     อย่างไรก็ตาม การลงทุนทุกประเภทมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนจึงควรศึกษา ทำความเข้าใจ และเลือกกองทุนให้เหมาะสมกับตัวเอง ที่สำคัญที่สุดคือ การเริ่มต้น เพราะยิ่งเริ่มลงทุนเร็วเท่าไร เวลาก็ยิ่งทำงานให้เงินของเราเติบโตมากขึ้นเท่านั้น

     กองทุนรวมจึงไม่ใช่เพียงเครื่องมือการลงทุน แต่ยังเป็น โอกาส ที่เปิดทางให้ทุกคนสามารถก้าวเข้าสู่โลกการเงินอย่างมั่นใจ และสร้างอนาคตทางการเงินที่มั่นคงได้

 

 

สโรชา เชิดชูธรรม (จิน)

ผู้แนะนำการลงทุน IC License เลขที่ 137173

ตัวแทนประกันชีวิต เมืองไทยประกันชีวิต เลขที่ใบอนุญาต 6801006286

Tel/Line ID : 062-9025532 หรือ แอดไลน์ คลิกที่นี่ 


Facebook คลิก :  Wealth Nest Planner

Instagram คลิก :  @wealthnest.pn


บทความที่เกี่ยวข้อง
อยากให้เงินเพิ่มพูนแต่ไม่อยากเสี่ยงมาก มีทางเลือกอะไรบ้าง
นอกจากเก็บเงินไว้กับตัวเฉย ๆ ยังมีทางเลือกฝากไว้กับธนาคาร ซื้อพันธบัตรรัฐบาล ประกันออมทรัพย์ ประกันบำนาญ ประกันควบการลงทุนหรือกองทุนรวมความเสี่ยงต่ำ
24 ส.ค. 2025
การวางแผนการเงินคืออะไร และทำไมถึงควรเริ่มตั้งแต่วันนี้
ทำความเข้าใจความสำคัญของการวางแผนการเงิน รวมทั้ง เงินเฟ้อ และ มูลค่าเงินตามเวลา สอนคำนวณมูลค่าเงินในอนาคตแบบง่าย ๆ ด้วยเครื่องคิดเลขทางการเงิน
8 ก.ค. 2025
ประกันควบการลงทุน Unit link และ Universal life
รู้จักความเหมือนและความต่างของ unit link กับ universal life ประกันควบการลงทุนจากเมืองไทยประกันชีวิต ทางเลือกของคนยุคใหม่ ยืดหยุ่นและออกแบบได้
12 ส.ค. 2025
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy