"เกษียณไว" ที่เคยใฝ่ฝัน อาจกลายเป็นฝันร้ายในชีวิตจริง
วันนี้ถึงกลายมาเป็นฝันร้าย
ไม่กี่ปีก่อน กระแส เกษียณไว หรือที่ในต่างประเทศนิยมเรียกว่าแนวคิด FIRE (Financial Independence, Retire Early) เคยเป็นความใฝ่ฝันของใครหลายคน ความคิดที่ว่าเราจะสามารถหยุดทำงานได้ตั้งแต่อายุยังน้อย เพื่อใช้ชีวิตในแบบที่อยากใช้ มีเวลาเดินทางท่องเที่ยว ทำงานอดิเรก หรือใช้ชีวิตอย่างอิสระโดยไม่ต้องกังวลเรื่องเงิน ฟังดูเป็นภาพในฝันที่น่าอิจฉาอย่างมาก
แต่ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา เราจะเห็นกระแสในโซเชียลที่เริ่มตั้งคำถามกับเรื่องนี้มากขึ้น เสียงสะท้อนหลายเสียงชี้ว่าการเกษียณไวอาจไม่ใช่เรื่องสวยหรูอย่างที่คิด ตรงกันข้าม หากไม่วางแผนให้รอบคอบ มันอาจกลายเป็นฝันร้ายที่เต็มไปด้วยความกังวลทั้งด้านการเงิน สุขภาพ และความมั่นคงในชีวิต
ความเสี่ยงด้านสุขภาพกายและใจ
การหยุดทำงานเร็วอาจทำให้เราได้พักผ่อนเต็มที่ แต่หากขาดกิจกรรมที่มีความหมายมาทดแทน ผลที่ตามมาอาจไม่เป็นไปตามที่หวัง
- สุขภาพกายเสื่อมเร็วขึ้น การไม่มีงานหรือกิจกรรมที่กระตุ้นให้เราเคลื่อนไหว ออกแรง หรือใช้สมอง อาจทำให้ร่างกายเสื่อมถอยเร็วกว่าที่คิด
- สุขภาพใจเปราะบาง หลายคนพบว่าหลังเกษียณไว ความรู้สึก ไม่มีเป้าหมาย หรือ ไร้คุณค่า เกิดขึ้นง่ายกว่าที่คาดไว้ โดยเฉพาะถ้าเคยชินกับการทำงานที่มีบทบาทชัดเจนในสังคม การไม่มีที่ยืนใหม่อาจทำให้เกิดภาวะซึมเศร้า ความเหงา หรือความโดดเดี่ยว
เมื่อสุขภาพกายและใจไม่แข็งแรง ภาพของชีวิตหลังเกษียณที่ควรเต็มไปด้วยความสุขก็อาจกลับกลายเป็นภาระหนักแทน
ความเสี่ยงด้านการเงิน
อีกหนึ่งปัญหาใหญ่ของการเกษียณไว คือเรื่องเงิน
- อายุยืนขึ้น
ปัจจุบันอายุขัยเฉลี่ยของคนไทยอยู่ที่กว่า 77 ปี และมีแนวโน้มยาวขึ้นเรื่อย ๆ หากเราเกษียณตั้งแต่อายุ 40-45 ปี นั่นหมายความว่าเราต้องมีเงินใช้ไปอีก 30-40 ปีอย่างน้อย ซึ่งเป็นระยะเวลาที่ยาวนานมาก - เงินเฟ้อและค่าครองชีพที่สูงขึ้น
เงินที่เคยคิดว่าเตรียมไว้เพียงพอ อาจหมดไปเร็วกว่าที่คาดเพราะค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นทุกปี - ค่ารักษาพยาบาลที่แพงขึ้นเรื่อย ๆ
เมื่ออายุมากขึ้น ค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพจะเป็นภาระหลัก หากไม่ได้วางแผนไว้ เงินก้อนที่เก็บมาอาจไม่เพียงพอ
ทั้งหมดนี้ทำให้หลายคนที่เคยใฝ่ฝันอยากเกษียณไว เริ่มมองเห็นว่าความมั่นคงทางการเงินในระยะยาวเป็นเรื่องท้าทายกว่าที่คิดไว้มาก
โลกที่เปลี่ยนเร็วและไม่แน่นอน
ในยุคที่เศรษฐกิจผันผวน การลงทุนมีความไม่แน่นอนสูง และเงินเฟ้อเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ การวางใจว่าเงินเก็บจะพอใช้ไปตลอดชีวิต กลายเป็นเรื่องที่คาดหวังได้ยาก
ไม่ว่าจะเป็นวิกฤตเศรษฐกิจ โรคระบาด หรือการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี ล้วนทำให้ต้นทุนชีวิตเปลี่ยนแปลงเร็วกว่าที่หลายคนคิด ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนบั่นทอนความมั่นใจของแนวคิดเกษียณไว
ความต่างระหว่าง เกษียณพร้อม กับ เกษียณไม่พร้อม
ภาพชีวิตหลังเกษียณนั้นต่างกันอย่างสิ้นเชิง ระหว่างคนที่ เตรียมตัวพร้อม และคนที่ ยังไม่พร้อม
- ผู้ที่เกษียณพร้อม
มีอิสรภาพทางการเงิน ไม่ต้องกังวลภาระงานหรือครอบครัว สามารถเลือกใช้ชีวิตตามใจชอบ เช่น ท่องเที่ยว ทำงานอดิเรก ออกกำลังกาย เข้าสปา หรือใช้เวลากับครอบครัวอย่างเต็มที่ ชีวิตหลังเกษียณจึงใกล้เคียงกับภาพฝันที่เคยตั้งใจ - ผู้ที่เกษียณไม่พร้อม
กลับต้องเผชิญความจริงอันหนักหน่วง หลายคนยังต้องทำงานหาเงินเพื่อเลี้ยงชีพต่อไป หลายคนต้องพึ่งพิงลูกหลาน หรือสวัสดิการจากรัฐ ซึ่งส่วนใหญ่จะมีสิทธิเฉพาะผู้สูงอายุที่มีอายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไป นั่นหมายความว่า หากเลือกเกษียณไว แต่ไม่มีเงินพอรองรับ อาจต้องอยู่ในภาวะลำบากกว่าที่คิด
ทำไมหลายคนไม่อยากเกษียณไวแล้ว
ปัจจุบันแนวโน้มที่น่าสนใจคือคนจำนวนมากกลับไม่อยากรีบเกษียณ เพราะได้เห็นความจริงว่า การทำงานไม่ได้มีแต่เรื่องของเงิน แต่ยังหมายถึง คุณค่าในตัวเอง ความภาคภูมิใจ และความมั่นคงทางใจ
ถ้าอย่างนั้น ทำงานไปเรื่อย ๆ ไม่ต้องเกษียณเลย ดีไหม
จากประสบการณ์การตรวจ พูดคุย และได้ดูแลผู้ป่วยสูงอายุ จินเห็นความต่างชัดเจนระหว่างผู้สูงอายุที่ยังทำงาน 2 กลุ่ม
- กลุ่มแรก ทำงานเพราะจำเป็น หากไม่ทำก็ไม่มีเงินเลี้ยงชีพ
กลุ่มนี้มีความกดดันสูง และส่งผลต่อความสุขโดยตรง
กลุ่มนี้คือกลุ่มคนที่ "เกษียณไม่พร้อม" - กลุ่มที่สอง ทำงานเพราะอยากทำ เพื่อเข้าสังคม เพื่อความสุข หรือเพื่อรักษาความสามารถของตน
กลุ่มหลังจะมีความสุข มองโลกในแง่ดี และมีความมั่นใจมากกว่ากลุ่มแรกมาก รวมถึงความสุขโดยรวมยังอาจมากกว่าผู้สูงอายุที่ไม่ได้ทำงานแล้วด้วยซ้ำ
ซึ่งกลุ่มนี้คือกลุ่มคนที่ "เกษียณพร้อม" ค่ะ
ดังนั้น หากยังต้องทำงานหลังวัยเกษียณก็ขอให้เป็นในลักษณะของ การเลือกทำ ไม่ใช่ การถูกบังคับทำ เพราะความรู้สึกในวัยเกษียณจะแตกต่างกันมากค่ะ
จะทำอย่างไรให้เกษียณไวเป็น ฝันดี ไม่ใช่ ฝันร้าย
การเกษียณไวไม่ใช่เรื่องผิด และสำหรับบางคนยังคงเป็นเป้าหมายที่น่าตื่นเต้น เพียงแต่ถ้าอยากให้เป็น ฝันดี ไม่ใช่ ฝันร้าย ต้องเตรียมตัวอย่างรอบคอบในหลายมิติ
- การเงิน : สร้างพอร์ตการลงทุนที่มั่นคง กระจายความเสี่ยง มีเงินบำนาญเป็นของตัวเอง และคำนวณเผื่อเงินเฟ้อกับอายุยืน
- สุขภาพ : ลงทุนกับสุขภาพตัวเองตั้งแต่เนิ่น ๆ ทั้งการออกกำลังกาย การกิน การตรวจสุขภาพ สำรวจสวัสดิการพื้นฐานและวางแผนรับมือค่ารักษาพยาบาลในวัยเกษียณไว้ตั้งแต่เนิ่น ๆ
- ความสัมพันธ์ : รักษาเครือข่ายทางสังคม เพื่อน ครอบครัว และชุมชน
- เป้าหมายชีวิต : หาสิ่งที่ทำให้ตื่นมาแล้วมีความหมาย เช่น งานอาสา งานอดิเรก หรือการเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ เตรียมเอาไว้ เพื่อให้ชีวิตหลังเกษียณยังคงมีความฝัน ความหมาย ไม่น่าเบื่อ
จากภาพฝันในอดีตที่ใคร ๆ ก็อยากไปให้ถึง วันนี้ เกษียณไว กลับถูกตั้งคำถามว่าอาจไม่ใช่คำตอบที่ดีที่สุดเสมอไป เพราะความเสี่ยงด้านสุขภาพ ความไม่มั่นคงทางการเงิน และโลกที่เปลี่ยนแปลงเร็วเกินคาด ทำให้หลายคนพบว่า เกษียณไวอาจเป็นภาระมากกว่าความสุข
แต่ในขณะเดียวกัน ถ้าเรามีการวางแผนรอบคอบ ทั้งด้านการเงิน สุขภาพ ความสัมพันธ์ และเป้าหมายชีวิต ก็ยังสามารถทำให้การเกษียณเร็วเป็น ฝันดี ได้ เพียงแต่ต้องไม่มองแค่ด้านสวยงาม ต้องเผื่อใจและเตรียมพร้อมกับความจริงที่รออยู่ข้างหน้า
เพราะสุดท้ายแล้ว การเกษียณที่ดีที่สุดอาจไม่ใช่ เกษียณไว หรือ เกษียณช้า แต่คือ เกษียณพร้อม
พร้อมทั้ง เงิน สุขภาพ และ ใจ เพื่อให้เราใช้ชีวิตบั้นปลายได้อย่างสง่างามและมีความสุขที่สุดค่ะ
สโรชา เชิดชูธรรม (จิน)
ผู้แนะนำการลงทุน IC License เลขที่ 137173
ตัวแทนประกันชีวิต เมืองไทยประกันชีวิต เลขที่ใบอนุญาต 6801006286
Tel/Line ID : 062-9025532 หรือแอดไลน์ คลิกที่นี่
Facebook คลิก : Wealth Nest Planner
Instagram คลิก : @wealthnest.pn